Trader Tan Community
Loading...
Forums | กระดานสนทนา
Talk about anything you want ! คุยได้ทุกเรื่อง ! ที่อยากแชร์
ฟอรั่ม › Library Trader | ห้องสมุดของลูกเผ่า › DeMarker System Strategy
หลักการพื้นฐานมีดังต่อไปนี้: ค่าสูงสุดระหว่างวันของวันปัจจุบันเทียบกับค่าสูงสุดระหว่างวันของวันก่อนหน้า หากค่าสูงสุดระหว่างวันของวันปัจจุบันสูงกว่า ความแตกต่างที่สอดคล้องกันจะถูกบันทึกไว้ ระบบจะบันทึกค่าเป็นศูนย์หากค่าสูงสุดระหว่างวันน้อยกว่าหรือเท่ากับค่าสูงสุดระหว่างวันของวันก่อนหน้า จากนั้นจึงสรุปความแตกต่างที่ได้รับด้วยวิธีนี้ ค่านี้จะกลายเป็นตัวเศษของตัวบ่งชี้ ซึ่งหารด้วยค่าเดียวกันบวกกับผลรวมของความแตกต่างระหว่างค่าต่ำสุดของราคาของวันก่อนหน้าและวันปัจจุบัน
เมื่อตัวบ่งชี้อยู่ใต้ระดับที่ต่ำกว่า – ราคาอาจกลับตัวขึ้น เมื่อตัวบ่งชี้อยู่เหนือระดับที่สูงกว่า – ราคาอาจกลับตัวลง
ตราสาร: ทุกประเภท
ตัวบ่งชี้: DeMarker, Parabolic SAR
การตั้งค่า: เปลี่ยนระดับของ DeMarker เป็น 0.2 และ 0.8
กรอบเวลา: >30M
ตัวอย่างเช่น เราเปิดสถานะ Long ใน GBPUSD ที่ 1.20880 เมื่อตัวบ่งชี้ Parabolic SAR เริ่มปรับตัวขึ้น และในขณะเดียวกัน เส้น DeMarker ก็ตัดเส้นล่างขึ้นมา ส่วน Stop Loss จะอยู่ที่จุดต่ำสุดที่ 1.18412
เราถือคำสั่งซื้อขายต่อไปจนกระทั่ง Parabolic SAR เปลี่ยนทิศทางแล้วเริ่มปรับตัวลง ที่ 1.23175
เราทำกำไรได้ 2,295 จุด
เราเปิดสถานะ Short ใน GDPUSD ที่ 1.40013 เมื่อตัวบ่งชี้ Parabolic SAR เริ่มปรับตัวลง และในขณะเดียวกัน เส้น DeMarker ก็ตัดเส้นบนลงมา ส่วน Stop Loss จะอยู่ที่จุดสูงสุดที่ 1.41829
เราถือคำสั่งซื้อขายต่อไปจนกระทั่ง Parabolic SAR เปลี่ยนทิศทางและเริ่มปรับตัวขึ้น ที่ 1.38366
เราทำกำไรได้ 1,647 จุด
ควรเลือกวาง Take Profit ในอัตราส่วน 3:1 กล่าวคือการเทรดควรทำกำไร 3 จุด โดยยอมตัดขาดทุน 1 จุด
อีกวิธีในการวาง Take Profit คือการดู Parabolic SAR หากตัวบ่งชี้เริ่มเปลี่ยนทิศทางก็ได้เวลาปิดสถานะ
สิ่งสำคัญคือต้องให้ความสนใจว่ากลยุทธ์นี้ใช้ได้เฉพาะในช่วงที่ตลาดมีแนวโน้มเท่านั้น โดยที่หากตลาดไม่มีแนวโน้ม กลยุทธ์ก็อาจให้สัญญาณที่ผิดพลาดได้เป็นจำนวนมาก
เทรดกับโบรกเกอร์ โดยใช้ตัวบ่งชี้ DeMarker และ Parabolic SAR แล้วรับผลกำไรอย่างต่อเนื่อง
Credit : FBS