Trader Tan Community

Loading...

Trader Tan Community

Register

Economics - Knowledge - 24 มีนาคม 2023

Why The Bank go Bankrupt? เกิดอะไรขึ้นทำไมธนาคารถึงล้มละลาย??? EP.2

👹👸 กลับมาต่อกันจากความเดิมของบทความที่แล้วกัน กับการล้มละลายปิดกิจการของ Bank ขนาดใหญ่ในอเมริกาและยังลุกลามต่อไปยังประเทศอื่นๆอีกด้วย แอดทิ้งท้ายเอาไว้แล้ว ว่ามันยังมีต่อเนื่องและยังไม่หมดง่ายๆ จะมีแบงค์ไหนเพิ่มขึ้นมาอีก เรามาตามอ่านกันต่อเลยครับ

Why The Bank go Bankrupt? เกิดอะไรขึ้นทำไมธนาคารถึงล้มละลาย ??? Ep.2

                    👹👸 กลับมาต่อกันจากความเดิมของบทความที่แล้วกัน กับการล้มละลายปิดกิจการของ Bank ขนาดใหญ่ในอเมริกาและยังลุกลามต่อไปยังประเทศอื่นๆอีกด้วย  แอดทิ้งท้ายเอาไว้แล้ว ว่ามันยังมีต่อเนื่องและยังไม่หมดง่ายๆ จะมีแบงค์ไหนเพิ่มขึ้นมาอีก เรามาตามอ่านกันต่อเลยครับ 

                    👹👸เนื่องจากธนาคาร 2 แห่งในสหรัฐอเมริกาล้ม  สร้างความตื่นตระหนกต่อเศรษฐกิจไปทั่วโลก  เพราะปรากฎการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว นั่นก็คือ วิกฤติซับไพม์หรือที่คนไทยเราเรียกกันว่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์   และจากความผิดพลาดในการบริหาร เรื่องการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบไม่บันยะบันยัง บวกกับ นโยบายดอกเบี้ย ในปัจจุบัน ที่น่าจะเดินหมากผิด…มั้ง  ของ FED (เฟด) คือตัวการสำคัญที่ทำให้แบงก์สหรัฐฯตกอยู่ในภาวะที่ย่ำแย่ไปตามๆกัน

                    👹👸การล้มลงของธนาคารซิลิคอนแวลลีย์ หรือ SVB (Silicon Valley Bank) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ทำให้ระบบธนาคารของสหรัฐฯ และตลาดการเงินโลก แปรปรวน ส่งผลให้ธนาคารหลายแห่งล้มตามกันมาติดๆ หนึ่งในนั้นก็คือ ธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) สถาบันการเงินรายใหญ่อันดับสองของสวิตเซอร์แลนด์    ก็ติดอยู่ในโผนั่นด้วย!!!! 

                    👹👸โอ้โห ไม่ธรรมดาแล้วนะครับ เพราะธนาคารสวิสนั้น จัดว่าใหญ่เป็นอันดับที่2 ของสวิสเซอร์แลนด์เลย เรามาทำความรู้จักกับธนาคารสวิสกันก่อนดีกว่าฮะ

                    ธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) ก่อตั้งขึ้นในปี 1856 และเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวมาหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และยังรวมไปถึงข้อหาฟอกเงินและอื่น ๆอีกด้วย

                    👹อันที่จริงธนาคารเครดิตสวิส ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2015 ต่อเนื่องยาวมาปี 2016 สาเหตุมาจากการตัดหนี้สูญของสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ที่เป็นผลพวงมาจากวิกฤตซับไพร์  (subprime) ปี 2008 และ  วิกฤตหนี้ยุโรป ในปี 2009

                    👹และจากการล้มของ 2 ธนาคารในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ หุ้นของ  ธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) ได้รับผลกระทบอย่างหนัก มูลค่าลดลงถึง 24% และลดลง มากกว่า 30%  หลังจากนั้น เนื่องจากความวิตกกังวลและไม่ไว้วางใจ ลูกค้าแห่กันถอนเงินทุนออกไปมาก ทำให้ทางธนาคาร ต้องสูญเงินทุนไปถึง 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.1 ล้านล้านบาทในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา….. อื้มหืมมม

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดลูกแรก

                    👹หลังจากหุ้นร่วงอย่างแรง  แบงก์ก็ขาดทุนมหาศาลจากการผิดนัดชำระหนี้และปิดตัวลงของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ในสหรัฐฯ (Archegos Capital)   ซึ่งส่งผลกระทบทางการเงินแก่เครดิตสวิส มากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ แผนกบริหารจัดการทรัพย์สินของธนาคารยังได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของกรีนซิล บริษัทการเงินของสหราชอาณาจักรอีกด้วย  โดนกันเป็นลูกโซ่จริงๆฮะ 

เคราะห์กรรมลูกที่ 2 

                    👹หลังจากหุ้นของธนาคารเครดิตสวิส ดำดิ่งลงต่ำกว่า 7,000 ล้านยูโร  นักลงทุนรายใหญ่ อย่างธนาคารแห่งชาติซาอุดี  เนชั่นแนลแบงก์ ซึ่งมีนาย  อัมมาร์ อัล คูไดรี   เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธนาคารเครดิตสวิส  ประกาศจะไม่อัดฉีดเงินทุนให้เครดิตสวิสมากไปกว่านี้ !!!!

เคราะห์กรรมลูกที่ 3

                     👹ธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์ ของฝรั่งเศส ได้ระงับการทำข้อตกลงบางเรื่องจากการเป็นคู่ค้ากับธนาคารเครดิตสวิส

                    👹ล้มครับล้มอย่างเดียว แต่เนื่องจาก ธนาคารเครดิตสวิสนั้นใหญ่มากๆ ทางรัฐฯจึงไม่สามารถปล่อยผ่านและปล่อยให้ล้มไปได้ การ  Deal  เพื่อเข้าซื้อกิจการจึงเกิดขึ้น 

                     👹👹 และในที่สุด ธนาคารยูบีเอส  UBS ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ตกลงซื้อกิจการคู่แข่ง Credit Suisse ที่มีมูลค่า 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.12 แสนล้านบาท) เพื่อยุติวิกฤตธนาคารล้ม  โดยมีรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์เป็นนายหน้าและผู้ค้ำประกัน

                    👹👹โดย  แบงก์ชาติสวิส (The Swiss National Bank) จะช่วยลงขันด้วย 1 แสนล้านเหรียญ และค้ำประกันให้อีก 9.7 พันล้านเหรียญ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับ UBS จากการเข้าซื้อกิจการของ Credit Suisse

                    👹👹ซึ่งก่อนหน้านี้ ธนาคารเครดิต สวิส ได้กู้ยืมเงินจากธนาคารแห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์ กว่า 54,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยหุ้นร่วงลงอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

                    👹👹ดีลประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการควบรวมกิจการระหว่าง 2 แบงก์ที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ แถมยังมีรัฐบาลเป็นนายหน้าแล้ว ยังเป็นดีลซื้อกิจการที่รีบที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วย เพราะต้องคุมวิกฤตในภาคธนาคารให้ได้เร็วที่สุด

        👉👉👉 เป็นอย่างไรกันบ้างครับ มหากาฬและดีลประวัติศาสตร์ที่เร็วและแรงขนาดนี้ เราก็ต้องมารอลุ้นกันต่อไปครับ ว่าเศรษฐกิจมหาภาคในครั้งนี้จะมีทิศทางเป็นอย่างไรต่อไป ธนาคารยักษ์ใหญ่และ Fed จะคลี่คลายปัญหาไปในแนวไหน ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ แต่ที่แน่ๆ แอดเกาะทองไว้แน่นเลยแหละ ปล่อยไม่ได้หรอก เดี๋ยวตกรถ อิอิอิ

ขอบคุณข้อมูลจาก ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 

ขอบคุณข้อมูลจาก workpointtoday

ใน Telegram เพื่อรับข้อมูลข่าวสารการเทรดฟรี : https://t.me/tradertanclub

เรื่องที่น่าสนใจ

Popular

Newest

Features Starter Investor ฟีเจอร์เด็ดในการเข้าทำกำไร

12 กรกฎาคม 2022

What are the barriers to trading? เหตุผลอะไรที่ทำให้เราเทรดแย่ ถอยหลังลงคลองไปเรื่อยๆ

14 เมษายน 2023

7 Signs For Full Time Trader 7 สัญญาณที่บ่งบอกคุณพร้อมแล้วสู่อาชีพเทรดเดอร์เต็มเวลา

10 พฤษภาคม 2023

Master Trader😁 ปล่อยสัญญาณเทรด อีกหนึ่งรายได้จากการเทรด

31 พฤษภาคม 2023

Thomas Peterffy ชาวฮังการี ที่รวยสุดในโลก จากการสร้างระบบเทรด EP.1

19 มิถุนายน 2022

Thomas Peterffy ชาวฮังการี ที่รวยสุดในโลก จากการสร้างระบบเทรด EP.2

19 มิถุนายน 2022

Features Starter Investor ฟีเจอร์เด็ดในการเข้าทำกำไร

12 กรกฎาคม 2022

Master Trader😁 ปล่อยสัญญาณเทรด อีกหนึ่งรายได้จากการเทรด

31 พฤษภาคม 2023

How to Claim Money From Forex Broker วิธีเคลมเงินจากโบรคเกอร์โฟเรกซ์

24 พฤษภาคม 2023

😡 แนวทางการระบายความเครียด😈จากการเทรด😊

23 พฤษภาคม 2023

Think like Jew, Practice like Japanese | คิดแบบยิว ทำแบบญี่ปุ่น ตอน2

17 พฤษภาคม 2023

มองกราฟง่าย ด้วย Kagi chart :📊

15 พฤษภาคม 2023