Trader Tan Community
Loading...
Forums | กระดานสนทนา
Talk about anything you want ! คุยได้ทุกเรื่อง ! ที่อยากแชร์
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบลงในวันพุธ (14 พฤศจิกายน) โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 410 จุด หรือ 1.23% ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.12% และดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 1.08%
ความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นแรงกดดันต่อตลาด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคเดือนตุลาคมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 6.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 31 ปี ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.9%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 3-4 พฤศจิกายนนี้ โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมครั้งนี้
ความเห็น
การปิดลบของตลาดหุ้นสหรัฐในวันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงพุ่งสูงขึ้น ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนตุลาคมที่พุ่งขึ้นสู่ระดับ 6.2% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐอย่างหนัก
การที่เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ครั้งนี้ คาดว่าจะยิ่งกดดันตลาดหุ้นต่อไป เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
จากปัจจัยดังกล่าว ผมมองว่าตลาดหุ้นสหรัฐยังคงมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงต่อในช่วงนี้ โดยนักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อัตราเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด และปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น