หลังจากที่เราได้แนะนำ Correlation ค่าสหสัมพันธ์ของคู่เงิน ไปในตอนที่แล้ว วันนี้ จะมาลุ้ยใช้งาน Correlation พร้อมกันๆ ว่ามีวิธีการยังงัย และ การใช้งาน
วิธีการใช้งาน correlation ค่าความสัมพันธ์ บน myfxbook ฟรี
ให้เราเข้าไปที่ myfxbook หลังจากนั้น เลือก market แล้วเลือก Correlation
โดยจะข้อมูลให้กรอบอยู่ 3 ช่องนั้นคือ
1.) Find currencies with correlation lower than : คู่เงินที่มีความสัมพันธ์ต่ำกว่าตามที่เรากำหนด หรือพูดง่ายๆ คือ กราฟที่วิ่งตรงกันข้าม เมือเรากรอบแล้ว ค่าจะเป็นสีแดงในตาราง
2.) Find currencies with correlation higher than : คู่เงินที่มีความสัมพันธ์ ต่ำกว่าตามที่เรากำหนด หรือกราฟที่วิ่งเหมือนกันมาที่สุด โดยค่าสีจะเป็นสีเขียว
3.) Timeframe : คือ กรอบเวลาที่ใช้ในการแสดงความสมพันธ์
การใช้งาน
1.) ใช้เพื่อกรองคู่เงินเพื่อไม่เข้าคู่เงินที่การวิ่งคล้ายกันๆ
2.) เพื่อหาจุดซ้อนทับของแนวรับแนวต้านหากคู่เงินนั้นมีจุดแนวรับแนวต้านที่เหมือนกันก็จะเพิ่มนัยยะสำคัยของแนวรับแนวต้านั้น
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับค่าสหสัมพันธ์ของคู่เงิน สามารถน้ำไปปรับใช้ในการเรื่องคู่เงินในการเทรดได้อย่างดีเยี่ยม
Read more: Correlation ค่าสหสัมพันธ์ของคู่เงิน EP.2 วิธีใช้งานบทความนี้อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ (correlation) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุน โดยความสัมพันธ์คือการวัดความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปร ความสัมพันธ์สามารถเป็นได้ทั้งเชิงบวกหรือเชิงลบ ความสัมพันธ์เชิงบวกหมายความว่าเมื่อตัวแปรหนึ่งเพิ่มขึ้น ตัวแปรอื่นก็มักจะเพิ่มขึ้นด้วย ความสัมพันธ์เชิงลบหมายความว่าเมื่อตัวแปรหนึ่งเพิ่มขึ้น ตัวแปรอื่นก็มักจะลดลงด้วย
บทความนี้อธิบายว่าความสัมพันธ์สามารถวัดได้หลายวิธี แต่วิธีที่พบบ่อยที่สุดคือการใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (correlation coefficient) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์มีช่วงตั้งแต่ -1 ถึง 1 ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ที่ใกล้กับ 1 บ่งชี้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปรมีความสัมพันธ์กันมาก ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ที่ใกล้กับ 0 บ่งชี้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปรไม่มีความสัมพันธ์กันมากนัก
บทความนี้อธิบายว่าความสัมพันธ์สามารถใช้เพื่ออธิบายข้อมูลและเพื่อทำนายอนาคตได้ ตัวอย่างเช่น หากเราพบว่าราคาหุ้นของบริษัท A สัมพันธ์กับราคาหุ้นของบริษัท B อย่างมีนัยสำคัญ เราสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อทำนายราคาหุ้นของบริษัท A ได้ เมื่อราคาหุ้นของบริษัท B เพิ่มขึ้น ราคาหุ้นของบริษัท A ก็มักจะเพิ่มขึ้นด้วย ในทางกลับกัน เมื่อราคาหุ้นของบริษัท B ลดลง ราคาหุ้นของบริษัท A ก็มักจะลดลงด้วย
อย่างไรก็ตาม บทความนี้ยังอธิบายว่าความสัมพันธ์ไม่สามารถใช้เพื่อรับประกันอนาคตได้ ความสัมพันธ์เป็นเพียงเครื่องมือที่สามารถใช้เพื่ออธิบายข้อมูลและเพื่อทำนายอนาคตเท่านั้น ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์ได้เสมอ
โดยรวมแล้ว ฉันคิดว่าบทความนี้อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ได้อย่างครอบคลุมและเข้าใจง่าย บทความนี้ยังให้ตัวอย่างที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวิธีใช้ความสัมพันธ์ในการทำนายอนาคต
นอกจากนี้ ฉันยังอยากจะเสริมว่าความสัมพันธ์เป็นเพียงเครื่องมืออย่างหนึ่งที่นักลงทุนสามารถใช้เพื่อตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรใช้เครื่องมืออื่นๆ ร่วมกับความสัมพันธ์ เช่น การวิเคราะห์พื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อตัดสินใจลงทุนที่ถูกต้อง
สนับสนุนบทความนี้ด้วยการกดติดตามอ่านใน : https://tradertan.co/blog/
Telegram เพื่อรับข้อมูลข่าวสารการเทรดฟรี :